(Disclaimer: ผมไม่ใช่หมอ แค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้น เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์)
สิ่งที่กำลังจะพูดนี้อาจจะฟังดูขัดกันเอง แต่จะบอกว่า
ผมอยากให้ “มี” ผู้ติดเชื้อลดลง
แต่ผมอยากให้ “พบ” ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ถามว่าทำไม? ยิ่งเราค้นพบผู้ที่ติดเชื้อแล้วมากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถป้องกันไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นแพร่เชื้อได้ดีขึ้นเท่านั้น
ความร้ายแรงของเชื้อโรคในครั้งนี้ อยู่ที่ความสามารถในการปิดบังอาการของมัน ทำให้เราจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มข้น เพื่อไม่ให้คนที่มีเชื้อโรคแต่ไม่มีอาการแพร่เชื้อไปยังคนอื่นๆ
แต่ว่าเราจะใช้มาตรการเหล่านี้ได้นานแค่ไหน? ขณะนี้น่าจะเห็นได้ว่าผลกระทบของการ lockdown เริ่มส่งผลเป็นรูปธรรมให้กับใครหลายๆ คนแล้ว ดังนั้น ยิ่งเราผ่อนคลายการ lockdown ได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเท่านั้น
แล้วเมื่อไหร่จะสามารถผ่อนคลายได้? ก็ต่อเมื่อความเสี่ยงที่การจะออกจากบ้านแล้วได้รับเชื้อกลับเข้ามาต่ำพอที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ และในความคิดผม วิธีที่จะลดความเสี่ยงนั้นได้ ก็คือการค้นหาผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการและแยกออกมาจากคนส่วนใหญ่ให้ได้เร็วที่สุด
นั่นเป็นสาเหตุที่ผมอยากให้พบคนที่ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด แต่ถามว่าจะทำอย่างไรให้เราสามารถเพิ่มความสามารถในการค้นพบได้
ผมเห็นล่าสุดที่ไหนจำไม่ได้แล้วว่าจำนวนผู้เข้ารับการตรวจในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2,400 คนต่อวัน (ใครมีข้อมูลช่วยอัพเดททีครับ) และจำนวนผู้ป่วยที่พบอยู่ที่ประมาณ 30 คน +/- ต่อวัน
ผมไม่แน่ใจว่าตัวเลขปัจจุบันตันที่ขีดความสามารถของห้องแล็บหรืออยู่ที่เกณฑ์การตรวจ หากตันที่ความสามารถห้องแล็บ ผมเข้าใจว่าปัจจุบันมีความพยายามที่จะหาวิธีที่จะเพิ่มความสามารถในการตรวจอยู่แล้ว
แต่ถ้าตันเพราะเกณฑ์การตรวจ อาจจะต้องค่อยๆ ผ่อนคลายเกณฑ์ให้ครอบคลุมมากขี้น แล้วดูว่าเราจะพบผู้ป่วยมากขึ้นหรือไม่ ผมจำได้ว่ามีการผ่อนคลายเกณฑ์การตรวจไปก่อนหน้านี้ ก็น่าสนใจว่าผู้ป่วยที่ไม่อยู่ในเกณฑ์เดิมแต่อยู่ในเกณฑ์ใหม่มีอัตราส่วนมาก-น้อยอย่างไร (เหมือนข้างบน ใครมีข้อมูลรบกวนบอกทีครับ)
ผมหวังว่า brain dump ในครั้งนี้จะจุดประกายการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ประเด็นการเมือง ดราม่าและความเกลียดชัง ใครมีความเห็นต่างกันไปจากนี้เชิญพูดคุยกันได้ครับ